วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักเพาะกายระดับกลาง

เป้าหมาย ,ความใฝ่ฝัน ,น้ำหนักที่ใช้ ,ลักษณะท่าบริหารที่ถูก ,บันทึกลงกระดาษ ,สารอาหาร


ลองนับนิ้วดูสิครับว่า คุณผ่านการบริหารแบบเริ่มต้นมากี่เดือนแล้ว ถ้าคุณนับได้ 4 เดือนละก็ ขอต้อนรับสู่การสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเราจะเรียกคุณตอนนี้ว่า "นักเพาะกายระดับกลาง" 

                 เวลา 4 เดือนที่เราใช้ไปในระหว่างการเป็นนักเพาะกายเริ่มต้น ให้อะไรเราได้บ้าง คำตอบก็คือ

                      ทำให้เกิดความเคยชินกับการใช้อุปกรณ์ในการบริหาร

                      เป็นช่วงเวลาที่บอกกับร่างกายเราว่า กล้ามเนื้อและเซลล์ต่างๆสามารถเติบโต ได้ด้วยการเล่นกล้าม

                      พัฒนาและเรียนรู้การบริหารด้วยลูกน้ำหนักที่หนักขึ้น

                      สังเกตด้วยตัวเองว่า กล้ามเนื้อส่วนไหนของเราที่โตเร็วที่สุด แข็งแกร่งที่สุด

แอบสังเกตุพวกแชมป์ทั้งหลายว่าเขาทำอะไรกัน

                 ผู้คนมักจะแก้ตัวกันว่า ที่เขาไม่มีรูปร่างสวยอย่างแชมป์ เป็นเพราะเขาโชคไม่ดีเรื่องกรรมพันธุ์ คุณอาจหลอกตัวเองและคนรอบๆข้างได้ แต่สำหรับคนอย่างผมที่คลุกคลีกับนักเพาะกายระดับแนวหน้ามามากมายนับไม่ถ้วน รู้ว่านั่นคือคำแก้ตัวชัดๆ ความจริงก็คือ แชมป์ทั้งหลายไม่ได้มีร่างกายที่แตกต่างไปจากคนทั่วไปเลย แต่ต่อมาภายหลัง ที่ทำให้เขาพัฒนาทิ้งห่างคุณไป ก็เพราะเขาค้นพบทางที่ดีที่สุดที่จะพัฒนากล้ามเนื้อของเขา และเขาก็ยึดถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องต่างหากเล่า 

                 วิธีบริหารของนักเพาะกายระดับซูเปอร์สตาร์ในอดีต อาจทำให้นักวิชาการสมัยนี้ต้องเผาตำราทิ้ง ลองนึกถึงการบริหารไบเซบทุกวัน สัปดาห์ละ 7 วัน ,ลองนึกถึงการบริหาร ด้วยท่า SQUAT 10 เซท เซทละ 10 ครั้งสัปดาห์ละ 3 ครั้งสิ มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย เพราะมันได้ผลกับเขาน่ะสิ

                 สิ่งเหล่านี้สอนอะไรคุณได้บ้าง คำตอบก็คือ อย่ายึดแนวทางเพียงเพราะคุณได้อ่านจากหนังสือ หรือเพราะคนที่บอกคุณเป็นคนที่คุณนับถือ   ตัวคุณเองต่างหากที่เป็นเจ้าของร่างกาย เป็นเจ้าของความไฝ่ฝัน และเป็นเจ้าของตัณหาที่จะมีร่างกายงดงาม  จงเชื่อตัวเองนั่นแหละดีที่สุด

                 เป้าหมายของคุณคืออะไร อยากเพิ่มมัดกล้าม ,อยากลดน้ำหนัก ,อยากให้ผิวหนังเต่งตึง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ทดลอง ! ทดลอง ! ทดลอง ! จำสามคำนี้ไว้ให้ดี ลองใช้ความหลากหลาย เพื่อหาหนทางใหม่ๆ อย่ามัวแต่ทำร่างกายเป็นเหมือนไม้ผุๆ ทำท่าซ้ำๆซากๆ ใช้ปริมาณน้ำหนักเก่าๆ ที่ถูกคือ ลองเปลี่ยนจำนวนน้ำหนัก จำนวนเซท เวลาพัก การทานอาหาร ฯลฯ ดูสิ

ว่าด้วยเรื่อง "ความเข้มข้น" Intensity

                 เมื่อเลยระดับนักเพาะกายเริ่มต้นมาแล้ว คุณจะต้องผูกพันกับคำว่า "ความเข้มข้น"  ไปตลอดชีวิตการเพาะกายของคุณ การบริหารแต่ละครั้งด้วยเวลานานๆ ไม่ได้แปลว่าคุณบริหารแบบเข้มข้นหรอกนะ มันอยู่ที่วิธีการบริหารต่างหากล่ะ 

                 จำนวนเซทไม่ใช่ตัวตัดสินว่า หากคุณทำมากเซทแล้ว จะเข้มข้นกว่าคนที่ทำน้อยเซท ยกตัวอย่างเช่น เจ้าเพื่อนรักของคุณ บริหารในยิมเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเต็มด้วยระดับความเข้มข้นทั่วๆไป มันจะเทียบไม่ได้เลยกับการบริหาร 30 นาที ด้วยความเข้มข้นอย่างดุเดือดของคุณ  จำไว้เลยว่าตัวแบ่งนักเพาะกาย ที่ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น คำว่า ความเข้มข้น มาอยู่ในระดับแนวหน้าเลย





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น