วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ความรู้เรื่องอุปกรณ์ออกกำลังกาย

ความรู้เรื่องอุปกรณ์ออกกำลังกาย

  เลิกประหยัดด้วยวิธีใช้ก้อนปูนมาเล่นกล้ามได้แล้วครับ  การลงทุนเรื่องเครื่องออกกำลังกาย เป็นก้าวหนึ่งที่สำคัญ  อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยไปดูหนัง ไม่เคยกินพิซซ่า ไม่เคยซื้อเสื้อผ้าตัวละหลายร้อยบาท หรือไปทัศนาจรจนหมดเงินไปเป็นพันบาท   ลองเจียดเงินส่วนนั้นเอามาลงทุนให้กับเครื่องมือที่จะทำให้คุณมีสุขภาพดี และมีรูปร่างที่ตรึงตาตรึงใจผู้คนรอบข้างกันดีกว่าครับ  และด้วยความที่มันเป็นเหล็ก ทำให้มันมีความแข็งแรงคงทน อยู่ให้ใช้ได้จนชั่วลูกชั่วหลานเลยทีเดียว 


 1.ไม่รู้เลยว่า ตัวไหน เรียกว่าอะไร  ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกใช่ไหมครับ แต่จากเมลล์ที่ผมได้รับนั้น ทำให้ทราบว่า มีเพื่อนหลายคนที่เริ่มสนใจเพาะกาย แต่ไม่ทราบจริงๆว่า ที่เรียกกันว่า ดัมเบลล์ หรือ บาร์เบลล์ นี่ หน้าตาเป็นยังไง ต่างกันตรงไหน 

 2.เพื่อนที่รู้จักอุปกรณ์ต่างๆแล้วว่า อุปกรณ์นั้นเรียกว่าอะไร ทำงานอย่างไร  แต่อยากซื้อไว้เป็นของตัวเองที่บ้าน งบในกระเป๋าก็ไม่ได้มีมากมาย แล้วจะซื้อตัวไหนก่อนดี ไม่อยากมาเสียใจทีหลัง 

          เมื่อประมวลปัญหาสองอย่างเข้าด้วยกัน ผมจึงได้จัดทำบทความนี้ขึ้นมา เพื่อตอบสนองปัญหาทั้งสองข้อนี้พร้อมกันครับ โดยหน้าแรกนี้ จะเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นจริงๆในการเพาะกาย ซึ่งคุณไม่สามารถเลี่ยงได้เลย เพราะหากคุณมีเพียง ดัมเบลล์อยู่ที่บ้าน 1 ลูกแล้วคิดจะเพาะกายนั้น ผมว่ามันไม่มีทางเลยครับ   

          บทความนี้ ผมจะแบ่งเป็น 3 หน้าตามลำดับความสำคัญครับ คือถ้าคุณมีงบประมาณอยู่ก้อนหนึ่ง แล้วอยากจะทราบว่าควรจะซื้ออะไรก่อนหลัง ก็ให้เรียงลำดับดังนี้ครับคือ ให้ซื้ออุปกรณ์ใน "หน้า 1" นี้ทั้งหมดก่อน แล้วถึงค่อยไปดูในหน้าที่ 2    ซึ่งอุปกรณ์ในหน้า 1 นี้ จะเป็นสามรายการที่จำเป็นจริงๆ (ซึ่งก็คือ บาร์เบลล์ ,ดัมเบลล์ และเตียงยกน้ำหนัก) ซึ่งผมจะแนะนำตามลำดับต่อไปนี้ครับ 


   ซื้อแยกชิ้นส่วน โดยเรียงลำดับการซื้อดังนี้ (หมายถึงว่าถ้างบประมาณน้อย ก็ค่อยๆเก็บเงินซื้อเรียงลำดับไป) ดังนี้ 
                   1.คานเหล็ก จะแยกขายเฉพาะคานยาว (คานแบบสั้นไม่แยกขาย) อันละ 321 บาท  ซึ่งเราต้องซื้อตัวล็อคหัวท้ายเอง

                   2.ตัวล็อคหัวท้าย เป็นนอตนะครับ ไม่ใช่แบบในรูปข้างบน ขายคู่ละ 88 บาท ส่วนแผ่นน้ำหนักไปหาซื้อเอาเอง

                   3.แผ่นน้ำหนัก ให้ซื้อดังนี้ครับ แผ่นละ 2.5 กก. จำนวน 4  แผ่น ,แผ่น 5 กก. จำนวน 2 แผ่น  โดยราคานั้นจะ เฉลี่ย กก.ละ 50 บาท 

          ปัญหาที่เจอมากับตัวคือ ซื้อครั้งแรก ก็ไม่มีปัญหาอะไร ต่อมาต้องการเพิ่มน้ำหนัก ก็จะไปซื้อแผ่นน้ำหนักมาเพิ่ม ร้านที่ขายให้เราตอนแรกก็เกิดปิดกิจการไป เลยไปซื้อที่ร้านใหม่ พอกลับมาบ้าน ปรากฏว่ารูที่แผ่นน้ำหนัก มันเกิดเล็กกว่าคาน ใส่ไม่ได้ เลยเสียเงินค่าแผ่นน้ำหนักฟรีไปเลยเกือบพันบาท จากประสบการณ์ตรงนี้จึงแนะวิธีแก้ปัญหาให้ 2 ประการคือ

                   - หาร้านที่เปิดมานานแล้ว และมั่นใจว่า ยังมีแนวโน้มที่จะอยู่อีกนาน  เพื่อที่ว่าเมื่อต้องการซื้อแผ่นมาเติมทีหลัง จะได้มาซื้อที่ร้านนี้ได้ 

                   - ถ้ามีเงินมากพอ ก็ซื้อยกชุด คือ 1,517 บาทไปเลย แต่หากต้องเจียดเงินไปซื้ออย่างอื่นอีก แนะนำให้ซื้อคานและตัวล็อค ก่อน แล้วซื้อแผ่นน้ำหนักทีหลัง ส่วนราคาของแผ่นน้ำหนัก มีดังนี้ครับ แผ่น 8 กก.ราคา 428 บาท , แผ่น 4 กก. ราคา 214 บาท ,แผ่น 3 กก. ราคา 175 บาท

          สำหรับราคาที่เสนอข้างต้นทั้งหมด เป็นราคาจาก ชั้น 4 เดอะมอลล์ แผนกเครื่องออกกำลังกาย สะดวกต่อการซื้อ แต่ยังมีราคาแพงครับ เพื่อนสมาชิกลองเดินดูหลายๆที่แล้วกัน


    1.บาร์เบลล์  สำคัญอันดับหนึ่งครับ ตอนนี้ถ้าจะซื้อ ก็จะมีหนทางให้เลือก 2 อย่างครับ คือ (ราคาทั้งหมดนี้ เป็นราคาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 นะครับ ตอนนี้คงขึ้นราคาหมดแล้ว)

           ซื้อแบบทั้งชุด คือคานเหล็ก 1 อัน (คือไอ้แท่งยาวๆที่เห็นในรูป) และแผ่นน้ำหนักสองข้าง ที่รวมกันแล้วได้ 40 กิโลกรัม (บังคับขาย โดยไม่สามารถเอาเพียง 20 กก.ได้ ) ราคา 1,517 บาท ซื้อได้ที่ชั้น 4 เดอะมอลล์ แผนกเครื่องออกกำลังกาย (ร้านนี้สะดวกซื้อก็จริง แต่ยังถือว่าแพงอยู่ครับ เพราะถ้าเป็นร้านข้างนอก ขนาดน้ำหนัก 72 กก.จะราคา 2,724 บาทเอง แต่นี่น้ำหนักแค่ 20 กก. ก็ไปที่พันห้าแล้ว) อย่างไรก็ตาม ผมยังไม่แนะนำให้ซื้อแบบเป็นชุด เพราะสำหรับมือใหม่ จะยังไม่ได้ใช้น้ำหนักถึง 40 กก.แน่นอนครับ แต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินก็ซื้อไว้ก็ได้ครับ (แต่อย่าลืมว่าเรายังมีตัวอื่น เช่นดัมเบลล์ และเตียงยกน้ำหนัก รอให้ซื้ออยู่ด้วยนะครับ) 

           2.ดัมเบลล์  มีทั้งแบบเป็นแผ่น และแบบเป็นหล่อเป็นลูกเดียวดังภาพข้างบน สำหรับราคาที่ผมไปสืบมา มีดังนี้ครับ
          แบบหล่อเป็นลูกเดียว ขนาด 1.5 กก.ราคา 53 บาท (ราคาที่ห้างแม็คโคร)

          แบบหล่อเป็นลูกเดียว ขนาด 2.5 กก.ราคา 87 บาท (ราคาที่ห้างแม็คโคร)

          แบบหล่อเป็นลูกเดียว ขนาด 5 กก.ราคา 165 บาท (ราคาที่ห้างแม็คโคร)

          แบบแผ่น ขนาด 20 กก. ราคา 759 บาท (ราคาเดอะมอลล์)

           ที่จำเป็นต้องซื้อคือ ดัมเบลล์ขนาดเบาสุด สัก 2 ลูก เพื่อเอาไว้วอร์มท่าต่างๆ ,เอาแบบหนัก แต่ไม่หนักมาก สัก 2 ลูก ไว้เล่น บ่าและหัวไหล่ ,เอาแบบที่หนักเลย จำนวน 2 ลูกไว้บริหารท่า DUMBBELL FLYE,สุดท้ายคือแบบแผ่น 17 กก.จำนวน 1 ลูก ไว้บริหารท่า ONE-ARM DUMBBELL ROW 


3.เตียงยกน้ำหนัก อย่างสุดท้ายแล้วครับสำหรับความจำเป็นที่จะต้องซื้อ นั่นก็คือเตียงสำหรับยกน้ำหนักซึ่งผมเน้นให้มีที่สำหรับบริหารขาด้วย เพื่อทำท่า LEG EXTENSION ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานในการเล่นกล้ามขา เพราะถ้าไปซื้อตัวเล่นกล้ามขาแยกต่างหาก จะราคาสูงมาก (ราวๆ 4,000 บาทขึ้นไป) 

          เตียงในรูปข้างบนนี้ เป็นเตียงอย่างดีครับ มีขายที่แผนกเครื่องกีฬา ของห้างแม็คโคร และตามห้างต่างๆ ราคาตกอยู่ราวๆ 4,000 บาท ซึ่งความจริงแล้ว เราสามารถใช้เตียงคุณภาพธรรมดา ดังภาพข้างล่างนี้ก็ได้ครับ 





    สำหรับอุปกรณ์ทั้งสามอย่างนี้ เป็นมาตรฐานสำหรับการเล่นกล้ามนะครับ คุณจะต้องมีเสียก่อน ถึงค่อยเริ่มคิดเรื่องเพาะกายครับ อย่ามัวไปเสียเวลากับการวิดพื้น เล่นซิทอัพเลยครับ ประสบการณ์การศึกษาเพาะกายกว่า 20 ปีของผม บอกไว้ว่าการทำเช่นนั้น ร่างกายแข็งแรงขึ้นก็จริง แต่ไม่มีทางที่กล้ามเนื้อมันจะใหญ่ได้หรอกครับ

          สรุปอีกครั้งหนึ่ง - ถ้าคุณพึ่งจะเริ่มต้นเล่นกล้าม โดยยังไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ผมจะสรุปให้ดูก่อนนะครับว่าจะต้องซื้ออะไรบ้าง ดังภาพข้างล่างนี้ครับ (ให้จดใส่กระดาษ แล้วนำไปซื้อที่ห้างคาร์ฟู ,บิ๊กซี ,โลตัส ,หรือข้างๆสนามกีฬาแห่งชาติก็ได้ครับ)




คานบาร์เบลล์ขนาด 155 เซนติเมตร (ขนาดมาตรฐาน)

แผ่นบาร์เบลล์ขนาดต่างๆ


ลูกดัมเบลล์ ขนาดต่างๆ


เอาแค่นี้พอครับ ขนาดนี้เราใช้เล่นไปได้เกือบครึ่งปีเลยทีเดียว  และถ้ามีอุปกรณ์เบื้องต้นตามที่ผมแนะนำนี้แล้ว แต่ถ้าเรายังพอมีทุนเหลืออยู่อีก ก็อาจจะซื้ออุปกรณ์เพิ่มได้อีก โดยดูที่หน้าถัดไปนะครับ แต่ถ้างบมีไม่มาก ก็เอาแค่เท่าที่ผมมีรูปให้ดูนี่ก็พอเพียงครับ (และอย่างน้อยก็ควรจะมีเท่านี้ด้วยครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น