ความรู้เรื่องอุปกรณ์ออกกำลังกาย 2

  สำหรับหน้าสองนี้ จะเป็นการแนะนำอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นรองลงมา คือถ้าเราจัดหาซื้ออุปกรณ์ในหน้าแรกได้หมดแล้ว และเก็บเงินต่อไป หรือมีเงินเหลือ ก็มาจัดซื้ออุปกรณ์ในหน้าสองนี้ครับ เริ่มต้นจากสำคัญมากไปน้อยนะครับ

1.เตียงซิทอัพ  ทรงนี้ ยี่ห้อ leg shaper ขายที่แม็คโคร ราคา 950 บาทครับ แต่ถ้าเพื่อนเจอราคาถูกกว่านี้ที่ไหน ก็ซื้อได้เลยครับ เพราะคุณภาพไม่ต้องดีมาก ก็ใช้ได้แล้วครับ ตัวนี้มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของหน้านี้นะครับ

     2.แผ่นน้ำหนัก  ไม่ต้องตกใจว่าต้องซื้อหมดเหมือนที่เห็นในรูปหรอกครับ ค่อยๆเก็บตังค์ซื้อไปเรื่อยๆ ผมซื้อทีละแผ่น สองแผ่น ตอนนี้เต็มบ้านเลย สวยดีครับ เป็นเฟอร์นิเจอร์ไปในตัว ไหนๆจะชอบแล้วก็ต้องสะสมกันหน่อยครับ มีไว้ใช้กับบาร์เบลล์ หรือกับเครื่องดึง ที่อยู่รูปข้างล่างสุดในหน้านี้น่ะครับ ส่วนราคาก็เป็นไปตามนี้นะครับ

           แผ่น 8 กก.ราคา 428 บาท

           แผ่น 4 กก. ราคา 214 บาท

          แผ่น 3 กก. ราคา 175 บาท

          อย่างไรก็ตาม ราคาแผ่นทั้งสามขนาดนี้ ผมไปจดที่เดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งผมว่ายังแพงอยู่มาก เพียงแต่ว่าหาซื้อที่นี่ ก็สะดวกในการหาซื้อ เพื่อนลองหาดูร้านอื่นก็ได้ครับ แต่ที่สำคัญต้องใส่คานบาร์เบลล์เราได้นะครับ ผมเคยซื้อมาแล้วรูเล็กไป ใส่ไม่ได้ ก็ต้องวางทิ้งไว้เฉยๆเลย

(ราคาปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆนะครับ ให้คอยเช็คตลาดเอา บทความนี้ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 น่ะครับ)

          3.ที่ฝึกท่า pull down นี่เป็นอุปกรณ์ตัวสุดท้ายที่ต้องใช้เงิน จากประสบการณ์ของผม เมื่อเราซื้ออุปกรณ์ยกน้ำหนักแบบมีลูกรอกต่างๆ ปัจจุบันเขาจะทำแบบเป็น แผ่นเหล็กในตัว มาให้ แล้วเวลาเราเปลี่ยนน้ำหนัก ก็ใช้เข็มเสียบ แบบที่เห็นตามห้างทั่วไป แต่ความจริงแล้ว นั่นเป็นเรื่องเชิงพาณิชย์ครับ เพราะเขาทำให้คุณต้องแบกภาระค่าแผ่นน้ำหนักเหล่านั้น  สมมติว่าคุณซื้อเครื่องเล่นหลังมา(ก็คือเครื่อง Pull down ตามภาพข้างบนนี้) คุณก็ต้องจ่ายค่าแผ่นน้ำหนักที่แถมมาด้วยใช่ไหมครับ แล้วพอคุณซื้อ เครื่องเล่นขา เพิ่มอีกตัว คุณก็ต้องรับภาระค่าแผ่นน้ำหนักที่ติดมากับตัวเครื่องเล่นขาอีก อย่างนี้ดีกับคนขาย แต่ไม่ดีกับคนซื้อครับ 

     เมื่อเป็นดังนี้ การซื้ออุปกรณ์แบบที่ มีแท่งเหล็กสำหรับใส่แผ่นน้ำหนัก ดังรูปข้างบนนี้ จึงเป็นวิธีที่ฉลาดที่สุด เพราะเมื่อคุณจะเล่นอย่างอื่น คุณก็แค่ยกแผ่นน้ำหนักออกจากแท่งเหล็ก แล้วเอาไปใส่อุปกรณ์ตัวอื่นได้เลย และยังไปใช้กับบาร์เบลล์ได้ด้วย 

          ส่วนที่ว่าจะซื้อที่ไหนนั้น อันนี้ต้องใช้เทคนิคครับ เพราะอย่างที่บอกไว้ว่า ร้านต่างๆเขาไม่ทำเครื่องนี้ออกขาย เพราะเขาจะขาดทุนกำไรไป ดังนั้นวิธีซื้อคือ ต้องสั่งประกอบครับ โดยการอาจเอารูปไปปรึกษาช่าง หรือว่า ถ้าจะให้แน่นอน ก็ลองไปค่ายเพาะกาย แล้วติดต่ออาจารย์เจ้าของยิมครับ เลือกยิมที่เปิดมานานแล้ว อย่าไปเลือกยิม ที่มีแต่เครื่องมือทันสมัยนะครับ ลองเดินหาอุปกรณ์ตัวนี้ในยิมเขา แล้วชี้บอกเขาว่าอยากจะได้เครื่องนี้ อาจารย์ช่วยติดต่อหาคนอ๊อกเหล็กให้ได้ไหม แล้วเจ้าของยิมก็จะบอกคุณเอง ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้แหละครับ ส่วนสนนราคา ก็ต้องประมาณ 5 - 6 พันครับ ไม่ใช่ถูกเลย เพราะเขาทำแบบชิ้นต่อชิ้น ไม่ได้ทำจากโรงงานเหมือนกับพวกที่ขายตามห้าง แต่คุ้มครับ เสียครั้งเดียว เล่นได้หลายท่าด้วย ได้ทั้งหลังแขน ปีก หน้าอก รับรองครับ ซื้อมาแล้วจะรู้ว่าคุ้มมาก ที่ว่าราคาแพง ก็ตกราวๆ 2หมื่นต้นๆครับ

  ตอนนี้อุปกรณ์หลักทั้งหมด ที่ต้องใช้ก็มีเพียงเท่านี้ครับ อย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณาที่อื่นอีกครับ ใครๆก็ต้องว่าเครื่องมือของตัวเองดีทั้งนั้น ผมเป็นห่วงเพื่อนที่ซื้อเครื่องแบบเป็นสถานี แบบที่เล่นได้หลายอย่างรวมในเครื่องเดียวน่ะ ไม่ดีเลยครับ เสียง่าย แล้วก็คุณเล่นจริงๆ ใช้ไม่กี่ท่าเองครับ ไม่คุ้มเอาเสียเลย  เปลืองพื้นที่อีกด้วย และผมไม่แนะนำให้ซื้อพวกอุปกรณ์ออกกำลัง ที่มีลักษณะแปลกๆในโฆษณาในทีวีตอนดึกๆเลยครับ เขาจ้างนายแบบหุ่นดีๆมาสาธิต จนเราคิดว่าถ้าใช้ตัวนี้แล้วจะได้หุ่นแบบเขา มันเป็นเรื่องการค้าน่ะครับ  ที่พูดเช่นนี้ได้ ก็เพราะผมเองซื้อไว้ทุกอย่างเลยครับ แล้วก็ไม่ได้ใช้เลยด้วย เสียดายเงินจริงๆ

          ที่ถูกแล้ว ให้คุณใช้การเพาะกายตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่ได้ศึกษาจากเวบนี้แหละครับ เพราะความรู้ต่างๆเหล่านี้ ถูกทดลอง ลองผิดลองถูกกันมากว่า 300 ปีแล้ว และอุปกรณ์ที่ผมแนะนำไปทั้งหมดนี้ ผมได้คำนวณเรื่องของสถานที่ไว้เป็นอย่างดีแล้วว่าในพื้นที่จำกัดนั้น เราควรต้องมีอุปกรณ์ตัวไหนก่อน รวมถึงเรื่องงบประมาณด้วยครับ และที่สำคัญที่สุดคือ ตรงที่ผมบอกว่าในเวบมีจำหน่ายนั้น เป็นเพียงอำนวยความสะดวกเท่านั้นครับ ไม่ได้บังคับให้เพื่อนสมาชิกต้องซื้อกับทางเวบแต่